อย่าลืมให้วิจารณญาณลูกทุกการพัฒนาเรียนรู้

Tagged: ,

เด็กฉายแวว  คือสัญญาณที่ดี ไม่ว่าจะเป็นแววในด้านอะไรก็ตาม  พ่อแม่บางคนดีใจที่ลูก ฉายแววชอบเรียนรู้

พ่อแม่บางคนดีใจที่ลูกเริ่มสนใจ ในกิจกรรมที่โดดเด่น  พ่อแม่หลายคนดีใจที่เด็กมีความกล้าแสดงออก หรือช่างพูดช่างซักช่างถาม  หรือเด็กบางคนส่อแววความเป็นอัจฉริยะ

ซึ่งมักเป็นที่เข้าใจกันทั่วไปว่า หากในเวลาที่เด็กได้ฉายแววใดออกมา ผู้ใหญ่ควรให้การสนับสนุนผลักดันความโดดเด่นในเรื่องนั้นให้มากที่สุด  แต่กระนั้นก็ตาม  ยังมีหลายครอบครัวที่ยังขาดความเข้าใจ  ในเรื่องของความพอดีเหมาะสมและการให้วิจารณญาณกับเด็ก

เด็กบางคนเป็นคนช่างถามช่างซัก ร่าเริงแจ่มใส คนในครอบครัวให้ความรักและเอ็นดู พาไปทางไหนเจอญาติพี่น้อง หรือเพื่อนฝูงคนรู้จัก เด็กก็ร่าเริงพูดเจื้อยแจ้ว ช่างถามช่างซักกับทุกคน

เด็กบางคนฉายแววนักประดิษฐ์ นักคิดนักวิเคราะ  ชอบสงสัย หาข้อเปรียบเทียบ ชอบรื้อ หรือชอบผสม ชอบประกอบ

รูปการณ์แบบนี้พ่อแม่มัก จะตามใจเต็มที่ และปล่อยให้เด็กยิ่งทำยิ่งดี ยิ่งส่งเสริม ด้วยความเชื่อที่ว่า  พัฒนาการของเด็กกำลังพรั่งพรู ไม่ควรไปสกัดกั้น

แต่การแปลความแบบนี้แท้จริงแล้ว มิใช่หมายถึง พ่อแม่จะไปแตะต้องไม่ได้เลยก็ไม่ใช่

การแตะต้อง ควบคุมกรอบให้อยู่ในความสมดุลย์เหมาะสม เป็นเรื่องที่ไม่กีดขวางพัฒนาการ  แต่อย่างใดเลย มันขึ้นอยู่กับ พ่อแม่จะพิจารณาได้ถูกต้องหรือไม่ในระดับความเหมาะสม    หากทำได้ถูกก็จะช่วยปรับความโดดเด่นให้อยู่ในลู่ทางที่ดี และยังปูทางให้ไปได้ไกลยิ่งขึ้น

และนี่เองคือสาเหตที่พ่อแม่หลายคนไม่มั่นใจว่า ตนเองจะเข้าใจหลักการ  ไม่มั่นใจว่าจะพิจารณาความเหมาะสมที่ถูกต้องได้

จึงมักเลือกที่จะไม่แตะต้องใดๆเลย และคาดไม่ถึงว่ามันอาจนำพามาซึ่งผลกระทบบางอย่างภายหน้า

เด็กที่ช่างซัก  อาจจะต้องสะดุดและเสียความรู้สึกหากเขาต้องไปเจอผู้ใหญ่คนอื่น ที่ไม่ใช่ชมรมคนรักเด็ก

หรือเจอกับผู้ใหญ่คนอื่นในภาวะลับตาผู้ปกครอง  และถูกดุถูกห้ามหรือถูกแสดงท่าทีรำคาญ หรือมีการใช้ท่าทีเหยียด

สถานการณ์แบบนั้นเองที่จะส่งผลอย่างค่อนข้างแรง ต่อเด็กที่เคยชินกับความมั่นใจสูง

หรืออีกตัวอย่างคือ เด็กที่ชอบรื้อชอบแงะ  ชอบทดลอง   ก็อาจก่อผลเสียให้กับทรัพย์ของผู้อื่นและถูกปฏิกริยาตอบกลับได้

รวมถึงเด็กที่ช่างสงสัย อยากรู้อยากเห็น ชอบจับสิ่งต่างๆมาเปรียบเทียบผสม  หากผู้ใหญ่ไม่ให้วิจารณญาณกับเด็ก เด็กอาจทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ สร้างความเสียหายกับทรัพย์สินหรือแม้แต่สิ่งมีชีวิตได้

ดังนั้นทุกการฉายแววพัฒนาการของเด็กพ่อแม่ควรคอยสังเกตลูกให้ดีว่าลูกได้รับ  ความก้าวหน้าอะไรใหม่ๆบ้าง และคอยกำกับขัดเกลา ในสิ่งที่ลูกค้นพบเรียนรู้แต่ละวัน  คอยกำกับวิจารณญาณให้กับทุกๆสิ่งที่ลูกได้เริ่มเรียนรู้ สอนลูกให้ใช้ดุลยพินิจต่อสิ่งต่างๆ แม้ว่าเด็กอาจจะยังไม่มีวุฒิภาวะเท่าผู้ใหญ่ แต่ก็คือวัยที่สามารถเริ่มต้นเรียนรู้เกี่ยวกับดุลยพินิจง่ายๆได้ รวมถึงเข้าใจข้อจำกัดต่อเรื่องต่างๆ รู้รีมิทรู้การแยกแยะ

สอนให้ลูกเข้าใจว่าภาวะใดทำแบบใดได้แบบใดไม่ได้   สิ่งใดสามารถทำเรื่องเหล่านั้นได้ แต่มีเงื่อนไขหรือข้อยกเว้นอะไรบ้างที่ไม่ควรทำ  พร้อมชี้แจงเหตผลให้เข้าใจ

เพราะทุกการเรียนรู้ของลูก จำเป็นจะต้องได้รับส่วนประกอบสำคัญเหล่านี้ตามไปด้วยอยู่เสมอ

และในขณะเวลาที่กำลังสอนลูกอยู่นั้น  ก็ควรที่จะให้ความพยายามสังเกตความเข้าใจของลูกด้วย อย่าเพียงแต่ถือว่าการพูดแล้วนั่นคือการสอนแล้ว  แต่ทว่าต้อง พยายามหาประโยคที่เข้าใจง่าย หรือบางเรื่องอาจต้องค่อยๆสอนย้ำๆ ก็ต้องอดทนใจเย็นที่จะคอยทบทวนให้ลูกอยู่เสมอ

Leave a Comment

Your email address will never be published or shared and required fields are marked with an asterisk (*).