เตรียมการฝึกความจำที่ง่ายมีชัยไปกว่าครึ่ง

Tagged:

พัฒนาการทางความจำของมนุษย์ เป็นเรื่องรากฐานที่สำคัญ และเป็นที่นิยมในการผลักดันส่งเสริมความสามารถในด้านนี้อย่างแพร่หลาย

ในครอบครัวต่างๆที่มี บทฝึกความจำแตกต่างหลากหลายกันไป บางบ้านมีอุปกรณ์ มีของเล่นแบบทดสอบฝึกความจำ มีทั้งหนังสือและสื่อวีดีโอรวมถึงโปรแกรมต่างๆ  ซึ่งถือเป็นช่วงที่ทำให้สนุกสนาน และยังได้ ส่งเสริมสายสัมพัณธ์ของครอบครัวอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม อาจจะยังคงมีวิถีความเคยชิน ที่บางครอบครัวซึ่งใช้วิธีการฝึกความจำให้เด็กๆอย่าง เป็นรูปแบบที่พร่องประสิทธิภาพ

สาเหตมีทั้ง แบบฝึกความจำยากเกินไป หรือไม่เหมาะสมสำหรับช่วงวัย หรือเป็นการฝึกความจำที่ไม่กระตุ้นในเรื่องที่ส่งผลในการหนุนขั้นตอนต่างๆของพัฒนาการเด็กได้มากนัก

ทั้งนี้ประเด็น ที่จะช่วยให้มีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น หากได้รับการแก้ไขปรับปรุงรูปแบบ นั่นก็คือ ในเรื่องของการสอนที่ เริ่มจากเรื่องง่ายๆ และควรเพิ่มความบ่อยครั้งและให้ผสมผสานกลมกลืนกันไปกับ กิจวัตรประจำวันได้แทบทั้งวัน

แต่ทว่า ยังคงมีหลายครอบครัวที่เข้าใจกันว่า  ช่วงเวลาที่จะฝึกสอนเด็กๆ จะต้องทำเป็นเรื่องเป็นราว ต้องคอยรอหาเวลา ในการพาเด็กมานั่ง และมีอุปกรณ์วัตถุต่างๆ  ทำเป็นเรื่องเป็นราวในชั่วโมงฝึกสอนเท่านั้น

สิ่งนี้จึงทำให้บางครอบครัวที่ไม่ค่อยมีเวลาที่เป็นตารางแน่นอน หรือบางครอบครัวกลายเป็นขี้เกียจ นานๆครั้งจึงจะทำหรือคิดเป็นภาระที่เอาไปฝากความหวังไว้ที่โรงเรียนหรือสถานรับเลี้ยงเด็กแต่เพียงเท่านั้น

อันที่จริงแล้วแบบแผนในการสอนที่กระตุ้นความจำให้กับเด็กๆนั้น  มิได้จำกัดแต่รูปแบบที่เข้มข้นแต่เพียงอย่างเดียว

พ่อแม่สามารถออกแบบรูปแบบการฝึกที่ง่ายๆ  เสริมได้ระหว่างวันอีกด้วย

สำคัญเพียงอาจจะต้องให้ความตั้งใจและให้เวลาสักช่วงนึงในการคิดค้น ออกแบบการฝึกตระเตรียมไว้  ใช้ในระหว่างวัน

เช่นการใช้สมุดจดบันทึกหรือแม้แต่อุปกรณ์สมาทร์โฟนบันทึกข้อมูล  คำถามที่จะคอยถามเด็กๆอยู่เสมอ

ซึ่งการจดบันทึกเอาไว้ก่อนนี้จะช่วยให้พ่อแม่สามารถค่อยๆพิจารณา ขัดเกลาสิ่งที่บันทึกไว้ได้ว่ามีความเหมาะสมแล้วหรือไม่

ง่ายเกินไปหรือยากเกินไปอย่างไร มีความสอดคล้องส่งผลประโยชน์ในเรื่องใดบ้าง  พ่อแม่จะสามารถค่อยๆปรับปรุงแผนการฝึกได้ด้วยตัวเองให้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ

นอกจากนี้ ในเรื่องของพัฒนาการความจำของเด็กๆจริงอยู่ว่า มีแบบการฝึกสอนที่ดีมีประสิทธิภาพมากมายให้เสาะซื้อหา หรือมีในโรงเรียนหรือสถาบันหรือสถานรับเลี้ยงฝึกสอนต่างๆ แต่กระนั้นเด็กๆยังมีความต้องได้รับการฝึกความจำในส่วนที่เป็นเรื่องอันสอดคล้องกับวิถีชีวิตส่วนตัว ซึ่งมีความเฉพาะตัวของเด็กแต่ละคน แต่ละวิถีแต่ละความคลุกคลี รวมถึงเรื่องในครอบครัวในสภาพแวดล้อมของแต่ละคน   ซึ่งคนที่รู้ดีที่สุดนั่นก็คือครอบครัวของตนนั่นเอง

โดยในแบบการสอนในส่วนนี้อาจจะสอนให้เด็กรู้จักจำ ชื่อ คนสัตว์สิ่งของภายในบ้าน จดจำชื่อเครือญาติพี่น้อง จดจำลำดับตำแหน่งของญาติเช่นอะไรคือลุงป้าน้าอาปู่ย่าตายาย

รวมถึงสิ่งของต่างๆภายในบ้านว่าคืออะไร  เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ชิดคลุกคลีกับชีวิตประจำวันของเด็กๆมากที่สุดเมื่อเด็กพบเห็นก็กระตุ้นการทรงจำให้เด็กๆได้โดยง่าย

แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้มักเป็นสิ่งที่หลายต่อหลายครอบครัวย่อมจะสอนให้เด็กๆ พอที่จะรู้จะทบทวนเป็นปกติอยู่แล้ว

แต่หากมีการปรับเป็นแบบแผน อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น ทบทวนบ่อยขึ้น ครบครันขึ้นและทำเป็นระบบอย่างจริงจังมากขึ้น

เด็กจะได้รับการบริหารสมอง อย่างต่อเนื่อง และส่งผลต่อไอคิวของเด็กๆรวมทั้งพื้นที่ของสมองที่สามารถย้ายไปฝึกเรื่องอื่นๆภายนอกได้ต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพที่รวดเร็วกว่า และพัฒนาการได้เร็วกว่าอย่างแน่นอน

Leave a Comment

Your email address will never be published or shared and required fields are marked with an asterisk (*).