จงระมัดระวังการติดเชื้อจากการสัมผัส
พฤติกรรม เอามือล้วงปากตัวเองเล่น ในเด็กทารก หรือแคะจมูกในเด็กที่เริ่มโต รวมทั้งการดูดนิ้ว ดูจะเป็นเรื่องที่ห้ามกันได้ยาก
สำหรับเด็ก โดยเฉพาะในเด็กทารก ซึ่งบางทีผู้ดูแลก็อาจจะมองเป็นเรื่องปกติธรรมดาของเด็กทั่วไป จนถึงขั้นปล่อยปละละเลยในเรื่องนี้ ทั้งที่จริงแล้วสาเหตสำคัญที่ทำให้พ่อแม่ตกใจในวันที่ลูกไม่สบายเป็นไข้ ล้วนง่ายที่จะเกิดจาก สาเหตของการติดเชื้อจากพฤติกรรมเช่นนี้ของเด็กๆ
ร่างกายของมนุษย์เรานอกจากจะมีภูมิคุ้มกันแล้ว ยังมีลักษณะทางร่างกายที่คอยปกป้องการติดเชื้อ มีผิวหนังที่ห่อหุ้มร่างกายเอาไว้
โดยลักษณะทางธรรมชาติของสิ่งที่เรียกว่า เชื้อโรค เชื้อไวรัสและแบททีเรีย รวมถึงสารปนเปื้อนต่างๆในรอบตัวเรา ล้วนมองหาช่องทางที่จะแพร่กระจายได้ง่ายที่สุด จากช่องทางที่สัมผัสสู่ของเหลวที่ไหลเวียนในร่างกาย เพื่อทะลุทะลวงโจมตีในชั้นที่อ่อนแอที่สุดของร่างกาย
ไม่ว่าจะเป็นจากทางเลือดที่โผล่มาจากบาดแผล จากน้ำลาย จากน้ำมูก หรือน้ำตา
ทางที่ง่ายที่สุดคือการเกาะอยู่บนวัตถุและผิวสัมผัสต่างๆ หรือแม้แต่จากร่างกายของสิ่งมีชีวิต เพื่อรอการสัมผัสเคลื่อนติดไปยังส่วนต่างๆอย่างเป็นขั้นตอน
อันตรายเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ใหญ่ที่มองเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องเล็ก ด้วยการวัดเอาจากตัวผู้ใหญ่เองที่ไม่เป็นอะไรอยู่มาจนโต
ประเด็นสำคัญที่ควรทราบนั่นก็คือ ระดับความแข็งแรงและภูมิคุ้มกันของร่างกายในเด็กและผู้ใหญ่นั้นแตกต่างกัน
นอกจากนี้ลักษณะของพฤติกรรมการสัมผัส ในเด็กยังมีการควานหา คว้าจับ เห็นแตะ มองหยิบ มีลักษณะที่เพิ่มความเสี่ยงบ่อยยิ่งกว่าผู้ใหญ่ อีกทั้งมีการปรับตัวความคุ้นชินกับมลภาวะได้ยังไม่มาก เปรียบเหมือนคู่ต่อสู้ที่อ่อนหัดหอมหวานสำหรับเชื้อโรคสารพัดชนิด การทานอาหารการออกกำลังกายมีความพัฒนาการที่หลากหลายน้อยกว่าผู้ใหญ่
นอกจากนี้ ยังอีกเหตผลหนึ่งที่ผุ้ใหญ่บางคนมักใช้กันนั่นก็คือการเทียบกับเด็กอื่นๆมากมายบนโลก ที่โตมาได้อย่างไม่ต้องคอยพิถีพิถันดูแลเรื่องนี้มากนัก
คำตอบก็คือจริง แต่ปริมาณของเด็กที่แจ๊คพอท เจอเข้ากับเชื้อโรคสายพัณธ์ฉกาจ ในยุคที่วิวัฒนาการของเชื้อมีความซับซ้อนกลายพัณธ์มากขึ้นนี้ เด็กที่โชคร้ายก็มีไม่น้อย และลูกของคุณนั้นไม่ควรจะเสี่ยงต้องกลายเป็นกลุ่มนั้น
ด้วยเหตนี้เอง การคอยระวัง มองเด็กอยู่ในสายตาให้มากที่สุด ระวังไม่ให้หนิบจับแตะสัมผัส กับวัตถุหรือผิวสัมผัสใด ที่ดูไม่ปลอดภัยจากเชื้อ
ผิวสัมผัสแบบใดที่ดูไม่ปลอดภัย?
คำตอบก็คือ ผิวสัมผัสที่มองเห็นคราบสกปรก หรือผิวสัมผัสที่มองไม่เห็นคราบแต่อยู่ในจุดที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อน มลภาวะต่างๆ
รวมถึงในบริเวณที่มีผู้คนพลุกพล่าน ผิวสัมผัสที่อาจผ่านผู้คนมามากหน้าหลายตา ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่ไม่ปลอดภัย
นอกจากนี้การคอยทำความสะอาดมือให้ลูกน้อยอยู่เสมอ ก็เป็นเรื่องที่ดียิ่งขึ้น หรืออาจใช้การคอยใส่ถุงมือให้ลูก เมื่อต้องอยู่ในภาวะที่อาจมีการสัมผัสที่หลากหลาย ก็ถือเป็นการลดโอกาสของการปนเปื้อนได้อย่างมาก และทุกครั้งที่ลูกมีอาการป่วย จึงควร ให้การสังเกตและวิเคราะอย่าง ตั้งใจที่สุดหรือ นำส่งแพทย์ เพราะเด็กคือช่วงวัยที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อมาก ทั้งจากพฤติกรรมของตัวเด็กเองและระบบภูมิต้านทานที่เยาว์วัยของตัวเด็กนั่นเอง จึงนับเป็นเรื่องที่ละเลยมองว่าเป็นเรื่องปกติทั่วไปมิได้เลย ในยามเจ็บไข้สำหรับเด็กๆ