อาหารนานาประเภทที่ทานร้อนๆแล้วให้ความอร่อย อันอยู่ในวิถีของผู้ใหญ่ที่มักเคยชินและมีรสนิยมแบบนั้น
แต่ลักษณะของการจดจำโปรแกรมในสมองของคนเรานั้น จำเป็นต้องมีขั้นมีตอนมีการสั่งสมค่อยๆปรับเปลี่ยนจนกลายเป็นรสนิยมในยามที่โตขึ้น
ทว่าสำหรับเด็กในวัยเล็ก เป็นวัยที่ต้องได้พบกับสิ่งต่างๆรอบตัวที่เป็นเรื่องใหม่สำหรับเขา
อาหารปรุงสุกร้อนๆย่อมให้ผลดีแน่นอนในเรื่องของอนามัยและสุขภาพ แต่ผลในด้านจิตใจนั้น เด็กจำเป็นต้องได้รับการค่อยๆปรับตัว
ดังนั้นแล้วการให้ลูกได้รับประทานอาหารร้อน พ่อแม่จึงควรเรียนรู้ อุณภูมิความร้อน แบ่งเป็นระดับต่างๆ นำมาแยกและค่อยๆเรียงลำดับให้ลูกค่อยๆชินในมื้อหน้าและมื้อต่อๆไป
แน่นอนว่าอาหาร ที่ทำให้ร้อนนั้นร้อนอย่างไรที่ร้อนน้อยที่สุดและเพียงพอต่อ สุขอนามัย หรืออาหารแบบใดที่ปรุงให้ร้อนแล้วสามารถรอให้เย็นตัวได้โดยไม่เสื่อมสภาพหรือเสียรสชาติจนเกินไป เหล่านี้คือเรื่องที่พ่อแม่ต้องให้การทำความเข้าใจสังเกตจดจำเรียนรู้
ผลเสียของการนำความร้อนในระดับที่เด็กยังไม่พร้อมรับ นอกจากจะเสี่ยงที่เด็กจะเกิดอันตรายกับช่องปากและลำคอแล้ว
เด็กยังอาจมีทัศนคติที่ไม่ดีต่ออาหารเมนูนั้นๆ เกิดการฝังใจไม่ชอบทานเมนูที่อุดมไปด้วยประโยชน์และโภชนาการนั้นไปเลย
มีเด็กที่เข้าสู่วัยอนุบาลมากมายที่ไม่ชอบทานของต้ม แต่กลับไปชอบทานของแห้งหรือของทอด เนื่องจากเหตเพราะความฝังใจในอณูลึกๆที่ครอบครัวและตัวเด็กไม่ทันรู้เลยว่าเคยเป็นเหต
อาหารประเภทต้มนั้นส่วนใหญ่เป็นเมนูที่เปี่ยมด้วยคุณค่าโภชนาการ มีความสดของอาหาร และมีสารอาหารไม่รั่วไหล รวมถึงมีการกระจายตัวของความเค็มความหวาน และการปรุงรสต่างๆอย่างไม่จับตัวเหมือนอาหารทอดอาหารผัด และยังเก็บกักสารอาหารไว้ค่อนข้างครบถ้วนสมบรูณ์แทรกซึมผ่านน้ำซุปได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังเคี้ยวง่ายย่อยง่าย ส่งผลดีต่อระบบลำไส้ และการดูดซึม อาหารเมนูต้มจึงจัดเป็นเมนูวิเศษ ที่ควรหาทางให้ลูกชอบทาน
หากพ่อแม่สามารถหาวิธีปลูกฝังให้ลูกมีทัศนคติที่ดีต่ออาหาร เมนูที่มีประโยชน์ได้สำเร็จ นับเป็นเรื่องดีที่มีแนวโน้มว่าลูกของคุณ จะเติบโตเป็นเด็กที่ทานสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพและนำสู่พัฒนา การที่เติบโตแข็งแรงได้เป็นอย่างดีมากเลยทีเดียว